ภาพทานตะวันของแวนโก๊ะ

โคนัน เดอะมูฟวี่ 19 มาชมภาพทานตะวันสุดวิเศษของแวนโก๊ะ

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ รายการชาวรายการ Gzone แฟนตัวยงคนรักโคนันนะคะ วันนี้เราจะมาย้อนรอยถึงโคนันเดอะมูฟวี่ที่ 19 เพื่อที่จะมาทำความรู้จักกับวินเซนต์ แวนโก๊ะ และภาพทานตะวันทั้ง 7 ค่ะ

ประวัติ แวนโก๊ะ

วินเซนต์ แวนโก๊ะ เกิดในเมืองซึนเดิร์ต (Zundert) ไม่แน่ใจนะคะว่าออกเสียงถูกรึเปล่านะคะ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ในปี 1853 หรือตรงกับพุทธศักราช 2396 ในครอบครัวฐานะปานกลาง ก่อนที่เขาจะยึดอาชีพศิลปินอย่างเต็มตัว แวนโก๊ะเคยทำงานในห้องภาพ และเคยเป็นนักเทศมาก่อน

แต่เนื่องจากเป็นคนที่พูดไม่เก่งและอารมณ์แปรปรวนง่ายจึงประกอบอาชีพแบบไม่ราบรื่นนัก และสุดท้ายแล้วถึงจะเปลี่ยนอาชีพมาเป็นศิลปิน แวนโก๊ะก็ไม่ประสบความสำเร็จเลยแม้แต่น้อย เขามีชีวิตที่แร้งแค้นมาโดยตลอด

ว่ากันว่า ชึวิตของแวนโก๊ะ เขาขายงานออกเพียงชิ้นเดียวก็คือ ภาพไร่องุ่นแดงในราคาประมาณ 350 ฟรังก์ค่ะ แต่อย่างน้อย ๆ นะคะแวนโก๊ะก็ยังพออยู่ได้ด้วยการสนับสนุนจาก เตโอ โดรัส แวนโก๊ะ หรือเตโอ น้องชายของเขาซึ่งประกอบอาชีพเป็นนักค้างานศิลปะ

เตโอรักพี่ชายของเขาและให้ทุนทรัพย์แก่แวนโก๊ะ ให้เขาได้มีอุปกรณ์ศิลปะ อาหาร และที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ ตลอดชีวิตของแวนโก๊ะเขาได้สร้างผลงานศิลปะมากกว่า 2,100 ชิ้น ในจำนวนนี้เป็นภาพวาดสีน้ำมัน 860 ชิ้น ส่วนที่เหลือเป็นภาพวาดสีน้ำ และภาพสเก็ต กับภาพพิมพ์ค่ะ

โดยเกือบทั้งหมดถูกวาดขึ้นในช่วง 2 ปีสุดท้ายของชีวิตของเขา และในปี 1890 ตรงกับพุทธศักราช 2433 ด้วยความเครียดและอาการทางจิต แวนโก๊ะได้ยิงตัวเองตายที่บ้านพักในเมือง โอแวร์ซูว์รวช ประเทศฝรั่งเศส ก่อนเสียชีวิตด้วยบาดแผลของตนเองในอีก 2 วันต่อมา รวมอายุได้ 37 ปีค่ะ

แม้ว่าตลอดชีวิตของแวนโก๊ะจะเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่แวนโก๊ะก็เป็นศิลปินสาย อิมเพรสชันนิส ผู้ทรงอิทธิพลอย่างยิ่งต่อศิลปะในยุคต่อมาค่ะ ในขณะที่ก่อนหน้านี้ภาพจิตกรรมที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศิลปะที่แท้จริง จะต้องเป็นภาพที่สมจริง แต่วาดต้นแบบวัตถุได้อย่างละเอียดละออ แต่ภาพผลงานของแวนโก๊ะกลับไม่ได้รับความสนใจมากนัก เพราะเขาใช้สีฉูดฉาด ทั้งยังมีรอยแปลงหยาบทั่วทั้งภาพ แต่กลับถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกอันรุนแรงจากการผ่านประสบการณ์ความเจ็บปวดทั้งชีวิตของเขาได้อย่างลึกซึ้ง

เมื่อเวลาผ่านไป นิยามคำว่าศิลปะและรสนิยมของผู้เสพศิลปะกว้างขึ้น ผลงานของแวนโก๊ะที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์จึงได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ประกอบกับชีวิตอันน่าสนใจของเขา ทำให้ทุกวันนี้ผลงานของแวนโก๊ะนั้นมีค่ามากเสียจนประเมินค่าไม่ได้เลยค่ะ

ในชุดภาพเขียนของภาพทานตะวัน 2 ชุดที่แวนโก๊ะวาดขึ้นชุดแรกถูกวาดขึ้นในปี 1886 – 1888 ที่ปารีส เป็นดอกทานตะวันที่วางที่พื้น ส่วนอีกชุดหนึ่งคือชุดที่ปรากฎในเดอะมูฟวี่ของโคนันภาคนี้ของเราค่ะ เป็นภาพของช่อดอกทานตะวันที่มีตั้งแต่ดอกตูม บาน และเหี่ยวเฉาเสียบรวมกันในแจกัน ภาพชุดนี้ถูกวาดขึ้นในปี 1888 – 1889 ที่เมืองอาร์ล ประเทศฝรั่งเศส ประกอบด้วยภาพจำนวนเจ็ดภาพ โดย 4 ภาพเป็นภาพต้นฉบับที่ในปี 1888 ส่วนอีก 3 ภาพเป็นภาพที่แวนโก๊ะวาดเลียนขึ้นจากผลงานชุดแรกในปีต่อมาค่ะ

แวนโก๊ะวาดภาพทานตะวันโดยตั้งใจไว้ว่าจะใช้ตกแต่งห้องของ ปอล โกแกง เพื่อนสนิจสายอิมเพรสชันนิสที่จะเข้ามาพักอาศัยกับเขา โดยหวังว่าจะซื่อให้โกแกงความงดงามในความเรียบง่ายของช่อทานตะวันธรรมดา ๆ และโกแกงก็ได้เห็นว่า ภาพชุดนี้เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของแวนโก๊ะกันเลยค่ะ

ต่อไปเราจะมาชมผลงานภาพทานตะวันที่สวย ๆ ของแวนโก๊ะค่ะ

ภาพทานตะวันภาพแรก

ภาพแรกของชุดนี้เลยค่ะ มีขนาด 73.5 x 60 เซนติเมตร ปัจจุบันถูกเก็บเป็นของสะสมส่วนบุคคลค่ะ

ต่อมา เป็นภาพทานตะวันแห่งอาชิยะ ภาพลำดับที่ 2 มีขนาด 98 x 69 เซนติเมตร ครั้งหนึ่งเคยถูกซื้อโดยโคยาตะ ยามาโมโตะ มหาเศรษฐีเขตอาชิยะ จังหวัดเฮียวโกะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปีพุทธศักราช 2463

โดยหวังว่าจะอุทิศให้แก่พิพิธภัณฑ์โอตสึกะ แต่ต่อมาก็เสียหายและสูญหายไปพร้อมพับผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าอีกมากมายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกองทัพสหรัฐได้บุกโจมตีทางอากาศเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2478 ตั้งแต่ปี 2557 พิพิธภัณฑ์โอตสึกะ ก็ได้พยายามสร้างทานตะวันแห่งอาชิยะนี้ขึ้นมาใหม่ให้เหมือนภาพต้นฉบับที่สุด

ตั้งแต่พื้นผิวผ้าใบ ไม้ขึงกระดาษ เม็ดสี ความแวววาว โดยเทียบกับภาพในหนังสือภาพของพิพิธภัณฑ์มุซาโคจิ ซาเนะอัตสึเป็นต้นแบบ ครั้งแรกปรากฎว่าพื้นหลังสีน้ำเงินซีดเกินไป ครั้งที่สองปรากฎว่าผิวงามเงาและขรุขระเกินไป ซึ่งปัจจุบันทางผู้รับผิดชอบ อยู่ระหว่างความพยายามครั้งที่ 3 ค่ะ

ภาพทานตะวันลำดับที่ 2

โดยภาพนี้เองที่เป็นภาพเจ้าปัญหาในโคนันเดอะมูฟวี่ 19 ภาคนี้ โดยภาพยนต์เรื่องนี้มีเนื้อเรื่องว่า แท้ที่จริงแล้วภาพนี้ไม่ได้เสียหายไปในสงครามเพลิง แต่ถูกปกป้องไว้อย่างทันท่วงทีก่อนที่จะถูกค้นพบอีกครั้งโดยชาวญี่ปุ่นที่ประเทศฝรั่งเศส

ภาพทานตะวันลำดับที่ 3

ภาพนี้มีขนาด 91 x 72 เซนติเมตร ปัจจุบันถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

ภาพทานตะวันลำดับที่ 4

ภาพนี้มีขนาด 92.1 x 73 เซนติเมตร ปัจจุบันถูกจัดแสดงที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษค่ะ

ภาพทานตะวันลำดับที่ 5

ภาพนี้มีขนาด 100 x 72 เซนติเมตร เป็นภาพเลียนของลำดับที่ 4 ปัจจุบันจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะซัมโป เจแปน ซึ่งตั้งอยู่ที่ ชั้น 42 อาคารซัมโป เจแปน ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทซัมโป เจแปนประกันภัยอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นค่ะ

ภาพทานตะวันลำดับที่ 5 ก็จะเป็นอีกประเด็นนึงในเนื้อเรื่องของเดอะมูฟวี่ภาคนี้ เพราะหลังจากที่ถูกซื้อโดยชาวญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2430 ทานตะวันลำดับที่ 5 ก็ถูกสงสัยว่าเป็นของปลอม และถูกสงสัยว่าเป็นฝีมือของเอมิวส์ ซัสเฟเมเกอร์ ศิลปินสายอิมเพรสชั่นนิสอีกคนนึงหรือไม่ ไม่ใช่แค่เพราะเขาเป็นนักเก็บสะสมคนแรก ๆ ที่ตามเก็บงานของแวนโก๊ะ

แต่เขายังเคยศึกษาวาดและเลียนแบบผลงานของศิลปินคนอื่น ๆ ให้เหมือนกันทุกระเบียดนิ้ว ทั้งยังกล่าวกันว่าเอมิวส์ น่าจะเคยพยายามวาดถาพเลียนแบบทานตะวันแล้ว แต่ไม่มีใครทราบว่า เขาวาดจนเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ และผลงานชิ้นนั้นถูกเผยแพร่ไปที่ใดรึเปล่า ประกอบกับลำดับที่ 5 ถูกวาดบนผืนผ้าใบปอกระเจา ซึ่งไม่ใช่วัสดุที่แวนโก๊ะใช้เป็นประจำ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2546 ผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ จากกรุงอัมสเตอร์ดัม ก็ได้มาพิสูจน์และรับรองแล้วว่า ภาพทานตะวันลำดับที่ 5 เป็นผลงานของแวนโก๊ะอย่างแท้จริงค่ะ

ภาพทานตะวันลำดับที่ 6

ภาพนี้มีขนาด 95 x 73 เซนติเมตร เป็นภาพเลียนของลำดับที่ 4 ปัจจุบันเป็นทรัพย์สินของมูลนิธิแวนโก๊ะ ซึ่งให้ยืมโดยถาวรแก่พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

ภาพทานตะวันลำดับที่ 7

โดยภาพนี้นะคะ มีขนาด 92 x 72.5 เซนติเมตร เป็นภาพวาดเลียนแบบของลำดับที่ 3 ปัจจุบันจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดเฟีย รัฐเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ

หากเพื่อน ๆ ได้ดูโคนันในภาคนี้แล้วเกิดเอะใจว่า ทำไมผลงานศิลปะจึงเป็นที่หมายตาของเหล่านักหัวขโมย ทั้งที่ต้นทุนของภาพมันก็ราคาแค่ผืนผ้าใบกับสี แต่ถ้าจะให้อธิบายกันง่าย ๆ นะคะ ผลงานศิลปะมีความพิเศษเหนือทรัพย์สินมีค่าประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทองคำ เพชรนิลจินดาตรงที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก

แม้แต่ภาพทานตะวันของแวนโก๊ะ ถึงแม้เขาจะวาดซ้ำหลายครั้ง แต่แต่ละภาพก็มีความแตกต่างกันออกไปค่ะ ยิ่งถ้าเป็นผลงานของศิลปินที่เสียชีวิตไปแล้ว ยิ่งจะทำให้มูลค่าของมันแพงสูงขึ้นเป็นลิบลิ่วเลยด้วยค่ะ เพราะในตลาดจะไม่มีผลงานของคน ๆ นั้นเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงจึงเป็นที่หมายปองของนักสะสมผลงานศิลปะตัวยง ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน นักเก็งกำไรที่ซื้อมาแล้วขายไป รวมถึงเหล่าอาชญากรค่ะ เพราะราคาภาพพวกนี้สูงลิ่วจนหาทางจับต้องไม่ถูกกันเลยทีเดียวค่ะ

และสำหรับภาพทานตะวันตัวเอกของเราในงานนี้ ก็เคยถูกขายในราคาสูงลิ่วเช่นเดียวกันค่ะ โดยทานตะวันที่ถูกขายในราคาสูงสุดก็คือภาพทานตะวันลำดับที่ 5 ในราคา 39.7 ล้านเหรียญ ตีเป็นมูลค่าปัจจุบันก็คือ 74.5 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2,628 ล้านบาท โดยยาซุโอะ โกโต เจ้าของบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ยาซึดะประกันภัย อุทกภัย และอักคีภัย ซึ่งปัจจุบันคือบริษัทซัมโป เจแปนประกันภัย บ้านของทานตะวันลำดับที่ 5 ในปัจจุบันนั่นเองค่ะ

หากสนใจเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับโคนัน คลิ๊กที่นี่

error: Content is protected !!